ปัจจุบัน หูฟังมีตัวเลือกให้ใช้งานมากมายตั้งแต่หูฟังระดับ High-End ราคาเกิน 2 หมื่นบาทขึ้นไป สำหรับนักฟังเพลง Audiophile, ราคาระดับกลางราว 5,000 บาท สำหรับคนที่ซีเรียสในการฟังเพลงระดับหนึ่ง จนถึงหูฟังราคาไม่เกิน 1,000 บาท ที่ตั้งเป้าสำหรับคนต้องการใช้หูฟังคุณภาพดี ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง แถมสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน
ในยุคนี้ หูฟังราคาไม่เกิน 1,000 บาทจากแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มพบเห็นได้มากขึ้นหลายเท่าจนหลายคนอาจเลือกซื้อไม่ถูก นี่คือบทความแนะนำ 35 หูฟังราคาไม่เกิน 1,000 บาทที่ใช้ได้ใช้ดี สามารถซื้อเก็บไว้ใช้งานเอง สะสมเป็นคอลเล็กชัน หรือเป็นของขวัญสำหรับคนรักใกล้ตัวก็ได้ แล้วจะมีอะไรบ้าง ก็สามารถรับชมได้เลย
*คำแนะนำ: เนื่องจากหูฟังแต่ละตัวให้คุณภาพเสียงและโทนแนวเสียงที่ไม่เหมือนกัน เราจึงแนะนำให้ทดลองใช้งานครั้งแรก ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง (หากมีโอกาสได้แวะร้านโซนขายของอิเล็กทรอนิกส์ หรือร้านขายหูฟังโดยเฉพาะ)
ประเภท In-Ear
Soundmagic ES11S – 290 บาท
Soundmagic ES11S คือหูฟัง In-Ear ระดับ Budget ที่สามารถรองรับการใช้ไมค์ทั้งในระบบมือถือ iOS และ Android กับแจ็กเสียบรูหูฟังเป็นรูปทรง L ช่วยลดการกระชากสาย เป็นหูฟังเหมาะสำหรับคนกำลังหาหูฟังตัวสำรอง หรือทดแทนหูฟังที่เสียแล้ว
ร้านค้า: HolySai
KZ EDX – 299 บาท
KZ หรือ Knowledge Zenith เป็นแบรนด์หูฟังจากประเทศจีนที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตหูฟังราคา Budget แต่มีคุณภาพดีกว่าหูฟังทั่วไป
KZ EDX เป็นหูฟังทรง Custom ราคาถูกที่สุดในแบรนด์ KZ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถเปลี่ยนสายหูฟัง 2-Pin ที่หากสายหูฟังขาด ชำรุด หรือต้องการอัปเกรดสายหูฟังที่ดีกว่านี้ ก็สามารถซื้อสายหูฟัง 2-Pin ใหม่มาเปลี่ยนได้ทันที ส่วนคุณภาพเสียงก็ถือว่าไม่เลวเสำหรับการฟังเพลงแนว EDM หรือเพลงอิเล็กทรอนิกส์ในราคาเพียง 300 บาท
ร้านค้า: HolySai, 425Degree, eGadget
JVC HA-FX71M – 390 บาท
หูฟัง JVC HA-FX71M มาพร้อมไมค์สามารถรองรับใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือ รวมถึงคุณภาพเสียงเบสที่มีมวลมากจึงใช้ฟังเพลง EDM หรือเพลงป๊อปได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนต้องการมองหาหูฟังตัวสำรอง หรือทดแทนหูฟังที่ชำรุดแล้ว
ร้านค้า: Munkong Gadget, Shopee, Mercular
JVC HA-FR6 – 490 บาท
หากคิดว่าสีของ JVC HA-FX71M มันดู “น่าเบื่อ” เกินไปสำหรับคุณ หูฟังรุ่น HA-FR6 สามารถตอบโจทย์ให้ท่านด้วยสีที่มีให้เลือกมากกว่า 8 สี นอกจากนี้ หูฟังตัวนี้มีไมค์ที่สามารถรองรับใช้งานกับระบบ iOS และ Android อีกด้วย
ร้านค้า: HolySai, Mercular
CCA CA4 – 499 บาท
CCA เป็นหนึ่งในแบรนด์หูฟังจากประเทศจีนที่งัดข้อกับ KZ ได้อย่างสูสี โดย CCA CA4 เป็นหูฟังทรง Custom เชื่อมต่อสายหูฟังประเภท 2-Pin สามารถเปลี่ยนสายได้ ซึ่งจุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้ คือใช้ไดรเวอร์ไฮบริดเป็น Balanced Armature 1 ตัว และ Dynamic Driver 1 ตัว ทำให้หูฟังรุ่นนี้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงดนตรีชัดเจนกว่าหูฟังที่ใช้ไดรเวอร์ 1 ตัว
ร้านค้า: Mercular, eGadget
KZ ZST – 489 บาท
จะบอกว่าเป็นหูฟังมหาชนเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าเดินทางไปไหนก็ต้องพบกับบางคนใช้หูฟังตัวนี้เป็นประจำ โดย KZ ZST มีคุณสมบัติเด่นสามารถเปลี่ยนสายหูฟังประเภท 2-Pin ได้ ส่วนคุณภาพเสียงโดยรวมก็จัดว่าไม่เลวเช่นกัน ถ้าหากเป็นคนชอบฟังเพลงเน้นเสียงเบสลึก ๆ เช่น EDM, อิเล็กทรอนิกส์, เทคโน, HIP-HOP เรามั่นใจว่าหูฟังนี้สามารถทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว
ร้านค้า: HolySai, Mercular, eGadget
JBL T110 – 490 บาท
JBL เป็นแบรนด์เครื่องเสียงจากสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการผลิตลำโพงไร้สาย และหูฟังรุ่นต่าง ๆ ที่มีราคาระดับ Budget จนถึงราคาระดับกลาง ซึ่ง JBL T110 คือหูฟัง In-Ear รุ่นราคาถูกสุดของแบรนด์ โดยมีจุดเด่นที่สายหูฟังเป็นสายแบนช่วยให้สายพันกันได้ยาก เมื่อเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ ส่วนเสียงของหูฟังตัวนี้ยังคงเน้นเสียงเบส เหมาะสำหรับการฟังเพลงป๊อป, EDM, HIP-HOP และร็อก เหมือนหูฟังหลายตัวที่อยู่ในราคาระดับเดียวกัน
ร้านค้า: Munkong Gadget, Mercular, BaNANA
KZ ZSN Pro X – 580 บาท
เป็นหูฟังรุ่นอัปเกรดจาก KZ ZSN Pro โดยรุ่น X ใช้บอดี้ทำจากวัสดุเรซินและโลหะ ช่วยให้รูปลักษณ์ภายนอกดูพรีเมียมกับมีความทนทาน นอกจากนี้ หูฟังนี้ใช้ไดรเวอร์ไฮบริดเป็น Balanced Armature 1 ตัว และ Dynamic Driver 1 ตัว รวมถึงสามารถเปลี่ยนสายหูฟัง 2-Pin ได้อีกด้วย
ร้านค้า: Mercular, HolySai, 425Degree, eGadget
Auglamour F300 – 690 บาท
อีกหนึ่งแบรนด์หูฟังชื่อดังจากประเทศจีน ที่เน้นผลิตหูฟังตั้งแต่ระดับ Budget จนถึงราคาระดับกลาง โดย Auglamour F300 เป็นหูฟังทรง Custom ใช้ไดรเวอร์แบบ Dynamic 1 ตัว ซึ่งจุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือการจูนเสียงแบบ Harman Curve ทำให้คุณภาพเสียงมีความใกล้เคียงกับลำโพงเครื่องเสียง รวมถึงใช้สายหูฟัง 2-Pin ที่สามารถเปลี่ยนสายเมื่อชำรุดหรือหากต้องการอัปเกรดสายได้
ร้านค้า: Sound Proof Bros., HolySai
BGVP DN1S – 690 บาท
BGVP DN1S คือหูฟังจากประเทศจีนในราคาระดับ Budget ที่ใช้สายหูฟังประเภท MMCX สามารถหมุน 360 องศา และถอดเปลี่ยนสายหูฟังได้ง่าย โดยจุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือใช้ไดรเวอร์ไฮบริดเป็น Balanced Armature 1 ตัว และ Dynamic Driver 1 ตัว ให้เสียงเบสที่กลมกล่อม เหมาะสำหรับการฟังเพลงหลากแนว (ยกเว้นแนวออร์เคสตรา หรือแนวเพลงที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีเยอะ)
ร้านค้า: Mercular, HolySai
FiiO F3 – 710 บาท
FiiO เป็นแบรนด์เครื่องเสียงจากจีนที่ทำทั้งแอมป์ เครื่องเล่นเพลงพกพา หรือแม้กระทั่งตัวหูฟังเอง ซึ่ง FiiO F3 เป็นหูฟังแบบคล้องหู (หรือสวมแบบธรรมดาก็ได้) ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถเปลี่ยนสีบอดี้ของหูฟังได้ตามใจชอบ รวมถึงสายหูฟังทำจากวัสดุ polyurethane ที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่พันกันง่าย และจุกหูฟังทำจากวัสดุ Medical Grade ช่วยให้จุกแต่ละขนาดนั้นให้ลักษณะเสียงที่แตกต่างกัน
ร้านค้า: 425Degree, HolySai
Skullcandy Ink’D 2.0 – 890 บาท
หากกำลังมองหาหูฟังดีไซน์เก๋ไก๋ขวัญใจวัยรุ่น อย่างไรก็ไม่มีทางหนีพ้น Skullcandy Ink’D 2.0 หูฟังจากแดนสหรัฐฯ ที่มีจุดเด่นด้านการออกแบบลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงให้เสียงเบสที่หนักแน่นต้องโดนใจขา HIP-HOP และ EDM ไม่ใช่น้อย